ด่านศุลกากรไปรษณีย์ ( ณ กรุงเทพ ) มีที่ทำการอยู่ ณ ที่ทำการไปรษณีย์กลาง แบ่งหน่วยงานออกเป็น
- งานธุรการ
- ฝ่ายตรวจคัดเลือกไปรษณีย์
- ฝ่ายเก็บรักษาไปรษณีย์ภัณฑ์
- ฝ่ายพิธีการ
- ฝ่ายตรวจปล่อยไปรษณีย์
- ด่านศุลกากรไปรษณีย์ ประจำที่ทำการไปรษณีย์กลาง
- ด่านศุลกากรสงขลา ประจำที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขสงขลาและหาดใหญ่
- ด่านศุลกากรภูเก็ต ประจำที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขภูเก็ต
- ด่านศุลกากรหนองคาย ประจำที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขหนองคาย
- ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ประจำที่ทำการไปรษณีย์สุไหงโก-ลก
พนักงานศุลกากรจะนัดหมายเวลากับเจ้าหน้าที่กรมไปรษณีย์โทรเลขเพื่อร่วมกันทำการเปิดถุงไปรษณีย์ต่างประเทศทุกชนิด เมื่อลงบัญชีกำกับเรียบร้อยแล้ว จะต้องแยกถุงไปรษณีย์ออกเป็น 3 ประเภม ดังนี้...
- ประเภทที่ 1 : ไปรษณีย์ภัณฑ์และพัสดุไปรษณีย์ที่ไม่ต้องเสียอากร
เช่น เป็นของใช้ส่วนตัวซึ่งเจ้าของได้เดินทางมาแล้วหรือเป็นของที่มีราคาแต่ละหีบห่อไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งจดหมายและไปรษณีย์บัตรเมื่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ลงบัญชีเป็นหลักฐานไว้เรียบร้อยแล้วจะมอบคืนให้เจ้าพนักงานไปรษณีย์รับไปจ่ายได้ทันที - ประเภทที่ 2 : ไปรษณีย์ภัณฑ์และพัสดุไปรษณีย์ที่ไม่ต้องเสียอากรและราคาไม่เกิน 10,000 บาท ที่ไม่จัดเป็นสินค้าก็ดีหรือที่จัดเป็นสินค้าแต่ราคาไม่เกิน 500 บาท
ศุลกากรถือว่าเป็นของเล็กน้อย อาจประเมินอากรจากใบปริญญาได้โดยไม่ต้องเปิดตรวจ หรือจะเปิดตรวจประเมินอากรก็ได้แล้วแต่เห็นสมควร เจ้าหน้าที่จะบันทึกรายการสิ่งของ จำนวนเงินอากรและค่าเก็บรักษา (ถ้าต้องเสีย)ลงไว้ในช่องรายการตรวจและประเมินอากรในใบแจ้งความพัสดุไปรษณีย์ภัณฑ์ ซึ่งเป็นแบบพิมพ์ของกรมไปรษณีย์ชุดละ 3 ฉบับ (ทางศุลกากรจะยึดฉบับที่ 2 ไว้ ส่วนฉบับที่ 1 ซึ่งเป็นต้นฉบับกับสำเนาฉบับที่ 3 จะมอบให้เจ้าหน้าที่กรมไปรษณีย์โทรเลขพร้อมหีบห่อของเพื่อจัดส่งไปยังผู้รับปลายทางและเรียกเก็บภาษีอากรแทนศุลกากรด้วย ของประเภทนี้ไม่ต้องจัดทำใบขนสินค้า แต่อนุโลมเป็นการจัดเก็บอากรปากระวางตามใบเสร็จแจ้งความ ผู้รับอาจโต้แย้งราคาประเมินของศุลกากรได้ โดยทำเรื่องราวยื่นต่อพนักงานไปรษณีย์เพื่อส่งต่อไปให้พนักงานศุลกากรผู้ประเมินพิจารณา หรือถ้าไม่ประสงค์จะรับก็ให้บันทึกและลงชื่อเป็นหลักฐานบนหีบห่อหรือซอง เพื่อจะได้ส่งคืนต้นทางต่อไป - ประเภทที่ 3 : ไปรษณีย์ภัณฑ์ที่จัดเป็นสินค้า ราคาเกินกว่า 10,000 บาท หรือเป็นของที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อจำกัดของกฏหมาย
จะต้องจัดทำใบขนสินค้าขาเข้าเดียวกับการนำเข้าทางเรือ
ในกรณีที่ผู้รับอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งไม่สะดวกต่อการจัดทำใบขนสินค้า ด่านศุลกากรไปรษณีย์จะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้รับว่าจะมารับได้เอง หรือมอบฉันทะให้ผู้ใดดำเนินการ หรือให้ส่งไปยังด่านศุลกากรใดที่ใกล้ที่สุด ในกรณีที่ผู้รับขอให้ส่งไปทำการตรวจปล่อยที่ด่านศุลกากรใด ด่านศุลกากรไปรษณีย์จะปิดกระดาษป้ายสีขาว แบบที่ 21 ความว่า "กองต้องเสียภาษีส่งด่านศุลกากร" ไว้ที่หีบห่อ และทำบัญชีส่งมอบให้เจ้าพนักงานไปรษณีย์รับส่งในด่านศุลกากรต่อไป
ความรับผิดชอบและโทษเกี่ยวกับของที่นำเข้าหรือที่ส่งออกทางไปรษณีย์
ตกอยู่แก่บุคคล 4 ประเภทด้วยกัน คือ
- ในส่วนที่เกี่ยวกับของนำเข้าได้แก่
1. ผู้มีชื่อที่จะรับของอันนำเข้ามา และ
2. ผู้รับของ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ - ในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งออก ได้แก่
3. ผู้ส่งของอันจะส่งออกไป และ
4. ผู้นำของส่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์
ของตกค้างให้ส่งกลับไปยังต้นทาง
ไปรษณีย์ภัณฑ์ ( Postal Package ) และพัสดุไปรษณีย์ ( Parcel Post Package ) ที่อยู่ในอารักขาของศุลกากรถึง 2 เดือนจนกลายเป็นของตกค้าง ให้ส่งกลับไปยังต้นทาง (ไม่ให้ใช้ ม. 61 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร 2469 มาใช้บังคับ ) ศุลกากรยึดได้เฉพาะของอันพึงต้องรับตามกฏหมายศุลกากร และของที่ผู้นำเข้าได้ยื่นใบขอเปิดตรวจเท่านั้น
วันเปิดถุงไปรษณีย์ให้ถือเป็นวันรับผิดในอันจะต้องเสียภาษี
ในทางปฏิบัติถือว่าวันเปิดถุงไปรษณีย์เป็นวันรับผิดในอันจะต้องเสียอากรและให้ถือสภาพของราคาของ และอัตราอากรที่เป็นอยู่ในวันนั้นเป็นเกินประเมินค่าภาษีอากร เพราะไม่อาจปฏิบัติตาม ม. 10 ทวิแห่ง พ.ร.บ.ศุลกากรได้จึงเท่ากับเป็นข้อยกเว้นของ ม.10 ทวิ โดยปริยาย มีข้อยุ่งยากเรื่องการถือวันนำเข้า