ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฏหมายศุลกากร

เขียนโดย Annrora ที่ 01:00

  1. การวางประกันค่าภาษีอากร 
    การขอวางเงินเป็นประกันให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดและจะกระทำได้ในกรณีต่อไปนี้

    1.1 มีปัญหาค่าภาษีอากร : ปัญหาค่าภาษีอาจเกิดขึ้นได้เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพของราคาของ และพิกัดอัตราศุลกากรซึ่งกฏหมายให้ถือตามที่เป็นอยู่ในเวลานำของออก หรือเวลาที่ออกใบขนสินค้าให้

    1.2 กรณีขอรับของไปก่อนยื่นใบขนสินค้า : ในกรณีที่มีการร้องขอ และอธิบดีเห็นว่า ของใดมีความจำเป็นที่จะต้องนำออกไปจากอารักขาของศุลกากรโดยรีบด่วน อธิบดีมีอำนาจให้นำของนั้นไปจากอารักขาของศุลกากรได้โดยยังไม่ต้องปฏิบัติตามวรรคหนึ่งก่อนแต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดและในกรณีที่อาจต้องเสียภาษีอากรให้วางเงินหรือหลักประกันอย่างอื่นเป็นที่พอใจอธิบดีเพื่อเป็นประกันค่าภาษีอากรด้วย

    1.3 กรณีวางเงินประกันสำหรับของที่นำเข้าเพื่อใช้ในการผลิต หรือผสม หรือประกอบ หรือบรรจุเพื่อส่งออก
  2. เงินเพิ่มและดอกเพิ่มผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกจะต้องชำระเงินอากรตามจำนวนที่ได้รับแจ้งให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากมิได้ชำระเงินอากรให้ครบถ้วนภายในเวลาดังกล่าวหรือมิได้ปฏิบัติตามระบียบหรือเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดให้ปฏิบัติในกรณีรับรองไปก่อนยื่นใบขน ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งออกอาจจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกไม่เกินร้ยอละ 20 ของจำนวนค่าอากรที่จะต้องเสียหรือเสียเพิ่มก็ได้
    *การชำระค่าอากรที่จะต้องเสีย หรือเสียเพิ่มให้เรียกเงินเก็บเพิ่มในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือนของอากรที่นำมาชำระโดยไม่คิดทบต้นนับแต่วันที่ได้ส่งมอบหรือส่งของออกจนถึงวันที่นำเงินมาชำระ
  3. การคืนค่าภาษีอากรการคืนค่าภาษีอากรที่ได้ชำระไว้แล้วมีหลายกรณีดังต่อไปนี้

    3.1 กรณีที่เสียภาษีไว้แล้วของสูญหายหรือถูกทำลายโดยอุบัติเหตุอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้
     อธิบดีอาจยกเว้นค่าภาษีที่จะต้องเสียหรือคืนค่าภาษีที่ได้เสียไว้แล้วสำหรับของนั้นก็ได้

    3.2 กรณีคำนวณจำนวนเงินอากรผิด
    ในกรณีที่เห็นสมควร อธิบดีมีอำนาจคืนเงินอากรส่วนที่เสียไว้เกินเฉพาะในเหตุที่ได้คำนวณจำนวนเงินอากรผิด

    3.3 กรณีเกิดจากใช้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับของคลาดเคลื่อน
    เช่น ชนิดของ คุณภาพ ปริมาณ น้ำหนัก ราคา และพิกัดอัตราอากร หากไม่ถูกต้องและเป็นเหตุให้เสียอากรต่ำกว่าที่พึงต้องเสียจริง แต่คำเรียกร้องขอคืนอากรเพราะเหตุเกี่ยวกับชนิด คุณภาพ ปริมาณ น้ำหนักหรือราคาแห่งของใดๆหรือเกี่ยวกับอัตราอากรสำหรับของใดๆนั้น มิให้รับพิจารณาหลังจากที่ได้เสียอากรและของนั้นๆ ได้ส่งมอบหรือส่งออกแล้ว เว้นแต่ในกรณีที่ได้แจ้งความไว้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนการส่งมอบหรือส่งออกว่าจะยื่นคำเรียกร้องดังกล่าว

    3.4 กรณีที่ไม่มีความรับผิดชอบในการเสียภาษีเกิดขึ้น
    ผู้เสียภาษีได้ชำระค่าภาษีอากรไว้แล้ว โดยยื่นเอกสารผ่านพิธีการศุลกากร แต่ปรากฏในภายหลังว่าของไม่ได้นำเข้ามาหรือส่งออกไป ผู้เสียภาษีมีสิทธิขอคืนค่าภาษีที่ชำระไว้
  4. การเก็บค่าภาษีที่ชำระขาด ถ้าภาษีที่เสียไว้ไม่ครบถ้วนตามจำนวนที่จะต้องเสียจริง กรมศุลกากรมีสิทธิเรียกส่วนที่ขาดจนครบ เว้นแต่ในกรณีที่มีการหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงอากรสิทธิของกรมศุลกากรที่จะต้องเรียกเก็บอากรที่ขาด เพราะเหตุอันเกี่ยวกับชนิด คุณภาพ ปริมาณ น้ำหนัก หรือราคาแห่งของใดๆหรือเกี่ยวกับอัตราอากรสำหรับของใดๆนั้นให้มีอายุครบ 10 ปี แต่ในเหตุที่ได้คำนวณจำนวนเงินอากรผิด ให้มีอายุความ 2 ปี ทั้งนี้นับจากวันที่นำของเข้าหรือส่งของออก
  5. การอุทธรณ์การประเมินค่าภาษีอากร
    ในกรณีที่เจ้าหน้าทีประเมินอากรและได้แจ้งในผู้นำเข้าทราบแล้ว หากผู้นำเข้าประสงค์จะโต้แย้งกาประเมินของเจ้าหน้าที่ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่ออธิบดีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากอธิบดี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
  6. การขอเปิดตรวจของเพื่อจัดทำใบขนสินค้า ( Bill of Sight )ผู้นำของใดๆเข้ามา ไม่สามารถทำใบขนสินค้าสำหรับของนั้นๆได้ เพราะยังไม่ทราบรายการสมบูรณ์ จะยื่น "ใบขอเปิดตรวจ"  ตามที่อธิบดีต้องการได้
    * ใบขอเปิดตรวจนั้น เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับรองแล้ว ก็ให้เป็นใบอนุญาตให้ผู้นำของเข้าตรวจของนั้นได้ และให้ผู้นำเข้าตรวจของนั้นต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ได้รับรองใบขอตรวจ + ทำใบขนสินค้ายื่นโดยพลัน
  7. ของตกค้าง ถ้าของใดอยู่ในอารักขาศุลกากรถึง 2 เดือน โดยไม่มีใบขนสินค้าอันใดรับรอง และไม่ได้เสียอากรและค่าประกันอากร เมื่ออธิบดีได้ให้คำบอกกล่าวไปยังตัวแทนของเรือที่นำของเข้ามานั้น 15 วันแล้ว ให้อธิบดีมีอำนาจสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ทำลายหรือนำของนั้นออกขายทอดตลาด หรือให้ตัวแทนเรือนั้น ส่งของออกไปนอกราชอาณาจักร
  8. ภาระค่าภาษีเกิดขึ้นเมื่อใดความรับผิด ในอันจะต้องเสียค่าภาษีสำหรับของที่ทำให้เกิดขึ้นในเวลาที่นำของเข้าสำเร็จ การคำนวณค่าภาษีให้ถือตามสภาพของ ราคาของ และพิกัดอัตราศุลกากรที่เป็นอยู่ในเวลาที่ความรับผิดในอันจะต้องเสียภาษีเกิดขึ้น
    *แต่ในกรณีที่ของเก็บไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน ให้คำนวณตามพิกัดอัตราศุลกากรที่ใช้อยู่ในเวลานั้น ซึ่งได้ปล่อยของเช่นว่านั้นออกไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บน








 

Annrora's Brains Template by Ipietoon Blogger Template | Gadget Review